เมืองรองต้องมาแอ่วลำปางและลำพูน
ลำปาง ...เที่ยวเท่าไหร่ก็ไม่หมด…
บางคนอาจจะคิดว่าลำปางเป็นแค่จังหวัดเล็ก
ๆ หรือเป็นแค่เมืองผ่าน…คงไม่มีอะไรน่าสนใจ….ขอบอกเลยว่าไม่.... ลำปางยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกเยอะ...อาจจะมีคำพูดที่ว่า
“...พลาดที่นี่ไปได้อย่างไรเนี่ยะ?!!”
นครลำปาง เมืองแห่งความหลากหลายทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน เที่ยวแบบสบายๆชิลล์ๆ...แล้วคุณจะเจออะไรที่ตื่นตาตื่นใจ และนี้แหละคือที่เที่ยวในลำปางสุดฮิปที่มานครลำปางแล้วต้องห้าม...พลาด
กาดกองต้า…
กาดแลงเสาร์-อาทิตย์...สนุกกับการตะลุย
ชม ชิม ช้อป &
แชร์ @กาดกองต้า ถนนคนเดินแห่งนครลำปาง
“กาด-กอง-ต้า” เป็นคำล้านนา แปลตามตัวคือ ตลาด-ถนน-ท่าน้ำ ถือเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่มีความเป็นมาที่เก่าแก่ และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เคยเป็นตลาดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เพราะเป็นเมืองท่าติดกับแม่น้ำวัง ซึ่งเป็นหัวเมืองหลักของล้านนา เรียกว่าสินค้าใด ๆ ที่โดยสารมาทางน้ำ แล้วต้องการส่งต่อไปยังภาคเหนือตอนบนจะต้องมาผ่านท่าน้ำแห่งนี้ก่อน จากนั้นจึงค่อยลำเลียงไปกระจายต่อด้วยการขนส่งทางบก ผู้คนที่ทำมาค้าขายอยู่ในตลาดนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ตลาดแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกติดปากชาวเหนือว่า ตลาดจีน หรือ ตลาดเก่า จนกระทั่งมีการคมนาคมทางบกเข้ามาแทน การค้าทางน้ำจึงลดบทบาทลงไป ด้วยจิตสำนึกรักบ้านเกิดของคนในชุมชน จึงร่วมแรงร่วมใจตกแต่งบูรณะฟื้นฟูให้อาคาร บ้านเรือนเก่าๆ กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง จนกลายเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่สวยงามมีอัตลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นตลอดระยะทางราว 600 เมตร ชวนให้หวนระลึกถึงบรรยากาศเก่าๆในอดีตเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 22.00 น.
เสน่ห์ตลาดริมน้ำในวันวาน
ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาลำปาง...เมืองต้องห้ามพลาด
สุดมหัศจรรย์ลำปางแลนด์แดนรถม้า
วัดพระบาทปู่ผาแดง หรือที่ชาวบ้านเรียก
"ดอยปู่ยักษ์" ตามชื่อสถานที่ตั้งของวัด ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านทุ่งทอง
หมู่ที่ 7 อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง
การเดินทาง
จากตัวเมืองลำปางใช้ทางหลวงหมายเลข 1035 ไปแจ้ห่ม
จากตัวเมืองแจ้ห่มเลยไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรเศษๆ
จะมีทางแยกซ้ายมือ อยู่ตรงทางโค้งพอดี ซุ้มประตูเขียนว่าเข้าหมู่บ้านใหม่เหล่ายาว
ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตร ไปจนถึงวัด จะมีป้ายว่า
วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง ระหว่างทางจะเห็นแนว เขาสูงตระหง่าน โดยมองเห็นพระเจดีย์สีขาวหลายองค์บนยอดเขา
ซึ่งมีลักษณะเป็นหน้าผาสูง อีกหนึ่งที่เที่ยวสวย Unseen Thailand จนต้องร้อง ว๊าว ที่นี่เลย วัดพระบาทปู่ผาแดง ความไม่ธรรมดาของวัดแห่งนี้ก็คือ
มีเจดีย์สีขาวตั้งอยู่บนยอดเขาสูงเสียดฟ้า เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น
ตัวศาลาของวัดและเจดีย์มีความสูง 815 เมตร จากระดับน้ำทะเล หากได้ไปเห็นด้วยสายตาของตัวเอง
ก็จะนึกขึ้นมาว่า เจดีย์บนยอดเขาแบบนี้สร้างได้ยังไงนะ
วัดพระบาทปู่ผาแดง ตั้งอยู่บนยอดเขาที่เรียกกันว่า ดอยปู่ยักษ์ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท ภายในวัดเป็นที่ ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท และมีไฮไลท์ คือ เจดีย์สีขาวบนยอดเขา ในอดีตนั้นยังไม่ได้มีการสร้างทางขึ้นเขา
ชาวบ้านที่ศรัทธาจะต้องเดินขึ้นเขาฝ่าดง เพื่อไปสักการะรอยพระพุทธบาท
อย่างยากลำบากเลยทีเดียวค่ะ ต่อมาเมื่อหลวงพ่อไพบูลย์ สุมัคโล
เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา ได้เดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาท จึงเกิดพลังศรัทธา
และประสงค์จะพัฒนาสร้างวัด
จนเมื่อปี พ.ศ.2547 คณะสงฆ์จึงมีมติให้สร้าง วัดพระบาทปู่ผาแดง ขึ้นเมื่อเราเดินทางไปถึงที่จอดรถของวัด ทางวัดจะมีบริการรถรับ-ส่งเพื่อขึ้นไปยังด้านบนเที่ยวไปและกลับ
ราคา 100 บาท/คน
พอเรานั่งรถไปถึง จะเห็นของอุโบสถ ซึ่งประดิษฐาน พระนิรันตรายองค์จำลอง พระพุทธรูปประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 4 และ พระบรมเจดีย์องค์ใหญ่ ซึ่งภายในประดิษฐานพระประทาน 4 ทิศ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
นอกจากนี้ยังมี วิหารพระสมปรารถนา
ประดิษฐาน พระสมปรารถนา สามารถแวะไปสักการะขอพรได้
จากชั้นล่างของวัดนี้สามารถมองเห็นส่วนของวัดชั้นบนที่มีเจดีย์สีขาวตั้งอยู่บนยอดเขาอีกด้วย
เป็นมุมสวยๆ ที่เหมาะในการถ่ายรูป การเดินขึ้นไปด้านบนยอดเขาของวัดนั้น
หลังจากที่มีการพัฒนาปรับปรุงวัด ทำให้มีทางเดิน และบันไดที่สะดวกสบายขึ้น
โดยเดินเท้าขึ้นจาก ลานจอดรถภูผาหมอก ระยะทางประมาณ
300 เมตร ก็จะถึงจุดที่ 2 ของวัดซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาทใหญ่ และ รอยพระพุทธบาทคู่ แนะนำว่าให้ใส่รองเท้าที่สบายๆ อย่างรองเท้าผ้าใบจะเหมาะที่สุด
เพราะทางเดินไม่ได้มีแค่บันไดอย่างเดียว ยังมีจุดที่เป็นทางดินลาดชันด้วยจากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อขึ้นยอด ดอยภูผาหมอก บนยอดดอยนั้นประกอบด้วย พลับพลารับเสด็จ องค์พระธาตุสีทอง และ เจดีย์สีขาว ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาในลักษณะที่งดงามและน่าอัศจรรย์ สำหรับเจดีย์ที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขานั้นมีมากกว่า 10 องค์ สร้างลดลั่นตามไหล่เขาด้วยแรงศรัทธาของพระสงฆ์และชาวบ้าน
ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนานนับ 10 ปี
และภายในเจดีย์บรรจุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่ชาวบ้านเคารพบูชา ด้านบนเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้
เพราะสามารถชมทิวทัศน์ของภูเขาสีเขียว และอำเภอแจ้ห่ม 360 องศา
- พิกัด
: https://goo.gl/maps/vY46iBnkbYHptAW16
- เปิดให้เข้าชม
: 07.30-16.00 น.
- โทร
: 06-2264-9928
หล่มภูเขียว
หนึ่งความลึกที่หยั่งไม่ถึง...หนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองที่ต้องไปแอ่ว
แอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่กลางหุบเขาท่ามกลางป่าไม้ร่มรื่น
ผืนน้ำมีสีเขียวมรกตงดงามสงบนิ่ง แต่ภายใต้ผิวน้ำนั้นคือความลึกที่หยั่งไม่ถึง ในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท
อำเภองาว จังหวัดลำปาง
มีความงดงามลึกลับทางธรรมชาติ นั่นก็คือ “หล่มภูเขียว”
มีลักษณะเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกในสมัยดึกดำบรรพ์
หรืออาจเกิดจากการยุบตัวของหินปูนซึ่งเคยเป็นเพดานถ้ำมาก่อน แล้วจมลงใต้น้ำ
เรียกว่าหลุมยุบ (Sink Hole) ต่อมาจึงกลายเป็นแหล่งรับน้ำ ธรรมชาติโดยรอบหล่มภูเขียวเป็นป่าดิบแล้ง
มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านเชื่อกันว่าหล่มภูเขียวเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์
มีพญางูใหญ่อาศัยอยู่ จึงได้ทำพิธีบูชาน้ำเป็นประจำทุกปี โดยมีเรื่องเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่าสมัยก่อนชาวบ้านจะนำขันข้าวพร้อมดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หล่มภูเขียว
โดยนำเครื่องบูชาไปวางบนขอนไม้และลอยไปกลางลำน้ำเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบึงน้ำ
และได้เกิดปรากฏการณ์ขอนไม้จมลงไปใต้น้ำแล้วลอยขึ้นมาโดยที่เทียนยังไม่ดับ
จึงเกิดความเชื่อว่าแหล่งน้ำนี้เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์
ชาวบ้านจึงนำน้ำจากหล่มภูเขียวมาใช้ดื่มกินและอธิษฐานขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บและนำไปใช้ในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวบ้านตามความเชื่อสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน บริเวณโดยรอบหล่มภูเขียวล้อมรอบไปด้วยผาหินปูนสูงชัน
มีความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่โดยรอบ
บรรยากาศของป่าเขาอันเงียบสงบผสมกับความเรียบนิ่งของผิวน้ำสีเขียวมรกตที่ลึกจนไม่สามารถหยั่งถึงนี้
ทำให้เกิดความงดงามอันลึกลับ สะกดสายตาของผู้ที่ได้มาเยือน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาชมความงามอันลึกลับของหล่มภูเขียว
มีข้อแนะนำและข้อห้ามคือควรให้ความเคารพสถานที่ ไม่ทิ้งขยะ ไม่จับปลา
ไม่นำปลามาปล่อย และไม่ให้อาหารปลา
เนื่องจากลักษณะของน้ำที่หล่มภูเขียวเป็นน้ำนิ่งไม่มีการไหลเวียนซึ่งจะส่งผลให้น้ำเน่าเสีย
เป็นอันตรายต่อปลาและระบบนิเวศโดยรอบ ไม่นำเท้าลงไปแช่ในน้ำ ไม่ลงเล่นน้ำเด็ดขาด
ไม่ทิ้งขยะ และช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อม
การเดินทางจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) จากเส้นทางสายลำปาง-พะเยา เข้าไปสู่ ต.บ้านอ้อน อ.งาว
เข้าไปเป็นระยะทาง 14 กม. และแยกไปหล่มภูเขียวอีกประมาณ 3.5
กม.
(อยู่ห่างจากที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านอ้อนมาทางทิศตะวันตกเป็นระยะทาง 6
กม.)นอกจากนั้น
ในบริเวณใกล้เคียงก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทอีกมากมาย
เช่น “ถ้ำผาไท” ถ้ำหินปูนที่มีหินงอกและหินย้อยที่สวยงามอยู่ตลอดเส้นทางเดิน
ภายในถ้ำมีรอยจารึกพระปรมาภิโธยย่อ “ป.ป.ร.” ซึ่งรัชกาลที่ 7
ทรงจารึกไว้เมื่อครั้งเสด็จประพาสถ้ำผาไทในปี 2469 “น้ำตกแม่แก้” น้ำตกขนาดเล็ก เกิดจากลำห้วยแม่แก้ สูงประมาณ 10 เมตร
มีชั้นเล็กๆ น้อยๆ ลดหลั่นกันอีก 14 ชั้น สามารถลงเล่นน้ำได้ “อ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม” สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีชื่อเสียงของจังหวัดลำปาง
สามารถล่องแพหรือเรือชมทิวทัศน์ของทะเลสาบและเกาะกลางน้ำได้อีกด้วย
มาลำปางอย่าลืมแวะมาเที่ยวหล่มภูเขียว
สอบถามรายละเอียดได้ที่
อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท โทร. 08-3203-7330,
0-5422-0364 หรือสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก
ร้านอาหาร และการเดินทางไปในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจังหวัดลำปางเพิ่มเติมได้ที่
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลำปาง (พื้นที่รับผิดชอบลำปาง,ลำพูน) โทร.0-5422-2214
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น