ฝนนี้ที่ลำปางและลำพูน
ฝนนี้ที่ลำปาง และลำพูน ...เสน่ห์หน้าฝนที่รอการมาเยือน
Green Season นี้ ขอนำเสนอแหล่งเที่ยวฮิปๆ
กับสถานที่สุดฮิตแห่งฤดู Green Season ที่จังหวัดลำปางและลำพูน ย่างเข้าสู่
“ฤดูแห่งความเขียวขจี” กลุ่มขาเที่ยวที่ชื่นชอบกับความสดชื่น
อากาศเย็นสบาย มองไปทางไหนก็เขียวขจีไปสุดลูกหูลูกตา ต้องตกหลุมรักช่วงนี้แน่ๆ ขอคัดสรรสถานที่ดีๆ มาฝากกัน และมั่นใจสุดๆ
ด้วยว่า ถ้าไปแล้ว ต้องฟินน์กับแหล่งกิน
แหล่งเที่ยว แหล่งที่พัก ร้านจำหน่ายของที่ระลึก พร้อมโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษอีกมากมาย
Green Season ครั้งนี้ จะทำในรูปแบบ E book เปรียบเสมือนคัมภีร์ที่ทุกท่านสามารถนำไปเป็นข้อมูลสำหรับการเดินทาง
เนื้อหาด้านในประกอบด้วยกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย
แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือน อาทิ แหล่งบรรจบของสายน้ำร้อน
น้ำเย็นหนึ่งเดียว ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
ที่มาแล้วนอกจากจะได้ฟังเสียงน้ำตกแล้วยังสามารถที่จะแช่น้ำร้อนผ่อนคลายเพื่อรอเวลาไข่ออนเซ็นสุก(ไข่น้ำแร่)หรืออาจจะนวดแผนไทยเพื่อผ่อนคลาย
แบบสบายๆ ณ ที่เดียว สัมผัส Caféหน้าฝน
จิบกาแฟพันธุ์อะราบริก้า(คั่วโอ่ง หรือ กาแฟแมคคาเดเมีย) รวมไปถึงการอบสมุนไพรแบบบ้านๆที่โอโซน
การ์เด้น หรือจะไปชมวิวงาม 360 องศาที่ วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง จุดชมวิววัดดอยพระฌาน
จุดชมวิวดอยผาแดงแดนสองตะวัน และแหล่งท่องเที่ยวพร้อมกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย
กิจกรรมดีๆที่รอการมาเยือน อาทิ "ถนนศิลปะ ลานเด็กยิ้ม
ริมน้ำวัง" ทุกบ่ายวันเสาร์ของเดือนมิถุนายน และ
เสาร์แรกของเดือนกรกฎาคม ณ บริเวณสตรีทอาร์ต ริมวังหลังจวน ถึงสะพานรัษฎาฯ "มนต์เสน่ห์
ปงสนุก" ทุกวันอาทิตย์ของเดือนมิถุนาฯ บริเวณหน้าวัดปงสนุกเหนือ "ผจญภัยในโลกสีเขียว
เที่ยวแจ้ซ้อน" ตลอดช่วงฤดูฝน ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน "เที่ยวป่าหน้าฝน"
อุทยานแห่งชาติทุกแห่ง ดอยแม่แจ๋ม ป่าเหมี้ยง "เดินขัวแตะ จิบกาแฟ
แลทุ่ง" สะพานบุญ วัดพระธาตุสันดอน อ.แม่ทะ วัดหลวงนางอย อ.เสริมงาม
จ.ลำปาง "ท่องเที่ยวเชิง CSR มาปลูกป่า
สร้างฝายที่ลำปาง" "บางกอกแอร์เวย์ลำปางฮาล์ฟมาราธอน" 7
กรกฎาคม 2562 "มินิมอลล์แม่วะเทรล" 14 กรกฎาคม 2562 "เทศกาลท่องเที่ยวเขื่อนกิ่วลม
แจ้ห่ม วังเหนือ" 13 -14 กรกฎาคม 2562 "สืบสานตำนานเจ้าพ่อทิพย์ช้าง"
18 -19 กรกฎาคม 2562 "แม่เมาะมินิฮาล์ฟมาราธอน" 4 สิงหาคม 2562
Green Activities
การท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนจะได้สัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม
ความเขียวขจีและความชุ่มฉ่ำของป่าไม้ที่ถูกกระทบกับเม็ดฝน
พร้อมกับได้ยินเสียงสัตว์น้อยใหญ่ร้องขานรับน้ำฝนที่โปรยปรายลงมา แม้จะเป็นฤดูฝน
แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคสำหรับขาเที่ยวทั้งหลาย โดยความมุ่งหวังของนักท่องเที่ยวไม่ไปเพียง เพื่อเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวแล้วก็กลับ
แต่นักท่องเที่ยวส่วนมากก็ต้องการที่จะไปยังแหล่งท่องเที่ยวนั้นแล้วได้รับความคุ้มค่าจากการออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่นั้นๆ
ตามที่คาดหวังไว้ การส่งเสริมกิจกรรมภายในแหล่งท่องเที่ยวจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่ได้เพียงแต่จะท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวก็ยังมีความคาดหวังที่จะได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ
ภายในแหล่งท่องเที่ยวนั้นด้วย
กิจกรรมท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนนอกจากจะเป็นกิจกรรมผจญภัยแล้วยังมีกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนด้วย
และเมื่อพูดถึงจังหวัดลำปางและลำพูนในช่วงฤดูฝนนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจเช่นกัน
หากลองมาท่องเที่ยวแล้วนอกจากแหล่งท่องเที่ยวแล้วกิจกรรมก็น่าหลงใหลไม่แพ้เช่นเดียวกัน
เที่ยวฮิปๆ
in
Lampang
นั่งรถม้าชมเมืองลำปาง
มาถึงลำปางทั้งที กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งหากมาเที่ยวที่ในจังหวัดลำปาง เพราะเพียงแค่เข้ามาในตัวเมืองก็จะได้สัมผัสกับเสียงกรั่บๆๆ
ซึ่งไม่ใช่เสียงไม้กระทบกันแต่เป็นเสียงของเกือกม้าที่กระทบกับพื้นถนนพร้อมกับเสียงล้อลาก
นั่นคือเสียงของรถม้าที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดลำปางและเป็นเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่ยังคงมีรถม้าสัญจรอยู่คู่กับรถโดยสารทั่วไป
ซึ่งครั้งหนึ่งรถม้าเปรียบเสมือนกับรถแท็กซี่ที่รับส่งผู้โดยสารจากสถานีรถไฟเข้าสู่ตัวเมือง
แต่ปัจจุบันกลายเป็นพาหนะสำหรับนักท่องเที่ยว
เพื่อเยี่ยมชมวัด อาคารเก่า บ้าน และตึกโบราณที่มีอายุมานานตั้งแต่สมัยอดีต
ซึ่งการนั่งรถม้าท่านจะได้สัมผัสถึง วิถีชีวิตของชาวลำปาง
อีกทั้งยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองลำปาง โดยการนั่งรถม้าแบ่งเป็น 2
รอบถ้าหากใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ราคาจะอยู่ที่ 300 บาท แต่ถ้าเป็น 1 ชั่วโมงราคาจะอยู่ที่ 400 บาท
นั่งรถรางท่ามะโอ เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชุมท่ามะโอ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับชุมชนท่ามะโอกันก่อน ชุมชนท่ามะโอ
เป็นชุมชนที่เก่าแก่ในเมืองลำปาง
คำว่า “มะโอ” เป็นภาษาเหนือ
หมายถึง “ส้มโอ”นั่นเอง ในชุมชนท่ามะโอนี้ยังมีบ้านเรือน อาคารเก่า
วัดวาอารามและโบราณสถานที่ยังคงหลงเหลือความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ให้ได้เรียนรู้
เยี่ยมชมและศึกษา ซึ่งจุดเริ่มต้นของรถรางอยู่ที่ลานเอนกประสงค์หน้าวัดประตูป่อง
ชมซุ้มประตูโขงที่สมบูรณ์และสวยงามที่สุดของภาคเหนือ ก่อนที่จะออกเดินทางผ่านกาดหัวขัว
วัดปงสนุกเหนือ ถนนสายวัฒนธรรม กู่ย่าสุตา วัดแสงเมืองมา กำแพงเมืองโบราณ
สถานปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม เขมโก วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม บ้านหลุยส์
และสถาปัตยกรรมบ้านโบราณ อัตราค่าบริการในการนั่งรถรางจะแบ่งเป็นวันธรรมดามีเพียงรอบเหมาเท่านั้น
ถ้าเป็นผู้ใหญ่ราคา 1,000 บาทต่อคันและนักเรียน
500 บาทต่อคัน ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ผู้ใหญ่ราคาคนละ 60 ส่วนเด็กราคาคนละ 30 บาท แต่ถ้าเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปีนั่งฟรี
ช่วงเวลามี 2 รอบ รอบเช้าเริ่ม 09.00 น.
และรอบบ่าย เริ่ม 13.00 น.
Play & Learn เพลินกับการเรียนรู้วิธีทำเซรามิค เมื่อพูดถึงเซรามิคที่ดีและมีคุณภาพ
ต้องมาที่จังหวัดลำปางเพราะที่นี่เป็นแหล่งของดินขาวที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย
จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้จังหวัดลำปางมีชื่อเสียงทางด้านเซรามิค ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์คำขวัญของจังหวัดลำปางที่ว่า
“เครื่องปั้นลือนาม”
เมื่อมาเยือนเมืองลำปางทั้งทีต้องไม่พลาดที่จะมาเรียนรู้วิธีการทำเซรามิคและการลงสีวาดลวดลายลงบนเซรามิคกลายเป็นงานฝีมือของตัวเองที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก
โดยในจังหวัดลำปางมีแหล่งเรียนรู้การทำเซรามิค เช่น พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี
เป็นแหล่งผลิตเซรามิคแห่งแรกในจังหวัดลำปางและยังเป็นสถานที่ที่ได้รวบรวมเรื่องราวความเป็นมาของเซรามิคและชามตราไก่เอาไว้
ส่วนอีกแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญอีกที่หนึ่งคือ อินทราเอาท์เลท
เป็นแหล่งเรียนรู้ที่เก่าแก่อีกที่หนึ่งในจังหวัดลำปาง
ที่มีโรงงานให้สามารถประสานงานติดต่อเข้าไปขอเยี่ยมชมการผลิตเซรามิคได้
นอกจากนี้ยังมีแหล่งเรียนรู้ทางด้านเซรามิคที่สนใจอีกมากมายที่น่าสนใจรอให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม
Play & Learn เพลินกับการอาบน้ำช้าง ฝึกเป็นควาญช้าง และขี่ช้างชมธรรมชาติ
นักท่องเที่ยว ที่สนใจอยากใกล้ชิดกับช้างพร้อมชมความเขียวขจีและอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ
ต้องมาที่นี่ศูนย์ฝึกอนุรักษ์ช้างไทย
ยิ่งในช่วงฤดูฝนจัดได้ว่าเป็นช่วงแห่งความอุดมสมบูรณ์ของป่าและพรรณไม้ต่างๆ
การนั่งหลังช้าง ขี่ช้างจึงกลายเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งสำหรับใครที่มาเยือนศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
นอกจากจะได้สัมผัสกับความชุ่นฉ่ำของธรรมชาติ
แล้วยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของช้างไทย โดยภายในศูนย์ฝึกอนุรักษ์ช้างไทยแห่งนี้
ยังมีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นชมการแสดงของช้าง การให้อาหารช้าง
หรือเพิ่มความใกล้ชิดโดยการพาช้างไปอาบน้ำ
และนอกจากนี้ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยยังมีโปรแกรมฝึกเป็นควาญช้างสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกด้วย
ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นชาวไทยและชาวต่างชาติ
อาบน้ำแร่แช่ไข่น้ำพุร้อน
ออกจากตัวเมืองลำปางขึ้นทางเหนือมาที่อำเภอเมืองปาน เป็นอำเภอที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา
มีป่าไม้ที่เขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดฝนที่โปรยปรายลงมา
เมื่อมาถึงในตัวอำเภอเมืองปานพลาดไม่ได้ที่จะมาอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
ซึ่งถ้าหากใครต้องการพักผ่อนและผ่อนคลายหรือใช้เวลาในช่วงวันหยุดกับครอบครัว
เพื่อนๆ หรือคนรักควรมาที่นี่ ที่อุทยานแจ้ซ้อนแห่งนี้นอกจากจะมีน้ำตกที่สวยงามทั้ง
7
ชั้นแล้วยังมีห้องอาบน้ำแร่ที่มีทั้งในร่มและกลางแจ้ง
ซึ่งการอาบน้ำแร่ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าของร่างกาย
นอกจากนี้ทางอุทยานยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติไว้ ถ้าหากได้มีโอกาสเดินทางไปสำรวจตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
ก็จะพบกับความเขียวขจี และความอุดมสมบูรณ์ของพืชไม้นานาพันธุ์
และไม่แน่ว่าระหว่างการเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
ท่านอาจมีโอกาสได้เห็นพันธุ์ไม้หายาก รวมถึงสัตว์หายากได้อีกด้วย
และกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ที่ทุกคนมาจะไม่พลาดคือการนำไข่มาแช่ในน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิสูงถึง
70-80 องศาเซลเซียส
ไข่ที่นิยมนำมาแช่ได้แก่ไข่ไก่และไข่นกกระทา
ลักษณะเด่นของไข่แช่น้ำแร่คือไข่ขาวจะเหลวแต่ไข่แดงจะค่อนข้างสุก
และไข่น้ำแร่นี้เองได้กลายมาเป็นอาหารถิ่นของจังหวัดลำปางที่ชื่อเมนูว่ายำไข่น้ำแร่
ล่องแพเขื่อนกิ่วลม
การนั่งแพเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่น้อย
เพราะได้มาพักผ่อนและปล่อยให้แพค่อยๆ
ไหลไปตามสายน้ำพร้อมดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงามทั้งสองฝั่ง
ซึ่งการนั่งแพที่เขื่อนกิ่วลมนี้จะใช้เวลานั่งแพเป็นเวลาครึ่งวัน
ระหว่างทางได้ชมกับทัศนียภาพของวิวทิวทัศน์และสถานที่ที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น
แหลมชาวเขื่อน ผาเกี๋ยง ผางาม ทะเลสาบสบพุ หมู่บ้านชาวประมงและบ้านสา
นักท่องเที่ยวท่านที่มีเวลาว่าง จึงไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
ที่จะมาล่องแพที่เขื่อนกิ่วลมเป็นอย่างยิ่ง โดยท่านสามารถชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาท่องเที่ยวที่เขื่อนกิ่วลม
เพื่อเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่อยู่ภายในบริเวณพื้นที่เขื่อนกิ่วลม ใครที่รักความสงบหรืออยากใช้ชีวิตอย่างไม่เร่งรีบ
ใช้เวลาไปกับการเพลิดเพลิน ชมวิวทิวทัศน์ สูดอากาศบริสุทธิ์ของธรรมชาติ จึงถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
Green
Chill Chill in Lamphun
นั่งรถรางชมเมืองลำพูน
เมื่อกล่าวถึงจังหวัดลำพูนเป็นเมืองที่เงียบสงบ
ชาวเมืองลำพูนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
มาเที่ยวลำพูนกิจกรรมนั่งรถรางเที่ยวชมวัดต่างๆ
เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตแล้วนอกเหนือจากวัดยังโบราณสถาน
และสถานที่ประวัติศาสตร์มากมาย มีคุณลุงขับรถรางจะเป็นไกด์คอยบรรยายให้ฟังอีกด้วย
จุดเริ่มต้นของรถรางจะอยู่ที่วัดพระธาตุหริภุญชัย ภายในเส้นทางจะผ่านพิพิธภัณฑ์ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน
คุ้มเจ้ายอดเรือน อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี วัดจามเทวี วัดมหาวัน วัดพระคงฤาษี วัดสันป่ายางหลวง
โบราณสถาน กู่ช้าง กู่ม้า และวัดพระยืน
ซึ่งปกติรถรางจะมีวันละ 2 รอบคือรอบเช้า เริ่ม 09.30
น. และรอบบ่ายเริ่ม 13.30 น. ค่าบริการผู้ใหญ่คนละ
50 บาท และเด็กคนละ 20 บาท
นอกจากนั่งรถรางชมแหล่งท่องเที่ยวภายในตัวเมืองลำพูนแล้ว
ยังมีรถรางที่พาเที่ยวชมวิถีชีวิตของชุมชนชาวยองหรือเรียกอีกชื่อว่าชุมชนบ้านหนองเงือก
ที่ยังการดำรงชีวิตของชาวยอง
และที่นี่มีชื่อเสียงในด้านการทอผ้าฝ้ายที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและเป็นของชาวยองดั้งเดิม
การนั่งรถรางจะพาชมวิถีชีวิตของชาวยอง แวะชมการทอผ้าฝ้ายที่สวยงามของชาวยอง
นั่งรถรางเที่ยวชมชุมชนบ้านหนองเงือกจะเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าเป็นอยากมาก
นั่งแพชมธรรมชาติที่แก่งก้อ
แม้จังหวัดลำพูนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองพุทธแต่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดลำพูนมีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่นใด
นักท่องเที่ยวที่มีเวลาว่างในช่วงวันหยุด อยากพักผ่อนหรือผ่อนคลายจากความเครียดในการทำงาน
แนะนำให้ลองมานอนแพชมวิวทิวทัศน์ริมทะเลสาบแก่งก้อฝั่งแม่น้ำปิงตอนเหนือของเขื่อนภูมิพลที่สวยงาม
ยิ่งในช่วงพระอาทิตย์ตกจะเห็นแสงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นภาพที่สวยงามมาก นอกจากนี้
ซึ่งนอกเหนือจากแก่งก้อที่เป็นจุดชมวิว และสถานที่ทำกิจกรรมต่างๆ มากมายแล้ว
ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิงอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกก้อหลวง น้ำตกก้อน้อย ทุ่งกิ๊ก เป็นต้น
Go Local เยี่ยมชมเยือนชุมชนพระบาทห้วยต้ม
สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ ซึ่งเป็นหมู่บ้านนับถือศีล 5 กินมังสวิรัติและมีนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาดำเนินในชีวิประจำวัน
ภายในหมู่บ้านจะมีกฎในการเข้าเยี่ยมหมู่บ้าน คือการห้ามทานเนื้อสัตว์
และชาวบ้านเองจะขายเพียงอาหารมังสวิรัติเท่านั้น
กิจกรรมที่น่าสนใจเมื่อมาเยี่ยมชมหมู่บ้านแห่งนี้คือการตักบาตรผักในทุกๆ
วันพระหรือวันสำคัญทางศาสนา นอกจากนี้ชาวบ้านจะมีการทอผ้าและนำมาใส่เอง
ชุมชนพระบาตรห้วยต้มจึงเป็นหมู่บ้านที่แสดงถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมซึ่งไม่ควรพลาดที่จะมาเยี่ยมชม
เยี่ยมชมวิธีการทำเค้กลำไย พูดถึงลำไยต้องนึกถึงจังหวัดลำพูน
เพราะลำไยเป็นผลไม้ประจำจังหวัดลำพูนและเป็นแหล่งใหญ่ที่ปลูกในประเทศไทย
ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนห้วยกาน ต.บ้านโฮ่ง
อ.บ้านโฮ่งจึงมีการประยุกต์โดยนำเอาผลผลิตลำไยที่มีอยู่มากมายมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เค้กลำไยเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับลำไยที่เป็นเพียงผลไม้ธรรมดาให้กลายเป็นของอร่อยขึ้นมาและยังสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนบ้านห้วยกานอีกด้วย
ทางกลุ่มวิสาหกิจบ้านห้วยกานจะมีการสาธิตการทำเค้กลำไยและสูตรลับความอร่อยให้กับผู้ที่มาเยือน
นอกจากได้เยี่ยมชมวิธีการทำเค้กลำไยแล้ว
ยังได้ของฝากที่อร่อยไปฝากคนทางบ้านได้อีกด้วย
ในอดีตบริเวณภาคเหนือของไทยเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนามาก่อน
ช่วงที่อาณาจักร เรืองอำนาจ
ได้แผ่ขยายอาณาเขตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว และมีผู้คนต่างถิ่นอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่
จึงได้รับวัฒนธรรมหลากหลายจากชนชาติต่าง ๆ เข้ามาในชีวิตประจำวันรวมทั้งอาหารการกินด้วย
อาหารของภาคเหนือ ประกอบด้วยข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก มีน้ำพริกชนิดต่าง ๆ เช่น น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่องมีแกงหลายชนิด เช่น แกงโฮะ แกงแค นอกจากนั้นยังมีแหนม ไส้อั่ว แคบหมู แกงฮังเล ไส้อั่ว อีกทั้งการที่อาศัยอยู่ในหุบเขาและบนที่สูงอยู่ใกล้กับป่า จึงนิยมนำ พืชพันธุ์ในป่ามาปรุงเป็นอาหาร แกงแค แกงหยวกกล้วย แกงบอน
อาหารของภาคเหนือ ประกอบด้วยข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก มีน้ำพริกชนิดต่าง ๆ เช่น น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่องมีแกงหลายชนิด เช่น แกงโฮะ แกงแค นอกจากนั้นยังมีแหนม ไส้อั่ว แคบหมู แกงฮังเล ไส้อั่ว อีกทั้งการที่อาศัยอยู่ในหุบเขาและบนที่สูงอยู่ใกล้กับป่า จึงนิยมนำ พืชพันธุ์ในป่ามาปรุงเป็นอาหาร แกงแค แกงหยวกกล้วย แกงบอน
ในแต่ละจังหวัดก็มีอาหารถิ่นประจำพื้นที่ ที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น
จังหวัดลำปาง
ในอดีตมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับชาวจีนที่มาตั้งถิ่นฐานเพื่อทำการค้า
จึงได้รับอิทธิพลการทานอาหารเมนูเส้นมาจากชาวจีน อาทิ บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว
จึงทำให้ในจังหวัดลำปางมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว เป็นจำนวนมาก
ในแต่ละร้านจะใช้ชามเซรามิคตราไก่สัญลักษณ์ประจำจังหวัดลำปาง ที่ผลิตจากดินขาว
ซึ่งพบเจอได้มากที่สุดในจังหวัดลำปาง เลยทำให้ เซรามิคของลำปางเป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงในจังหวัดลำปางเป็นอย่างมาก
หากมาทานก๋วยเตี๋ยวที่ลำปางแล้ว แน่นอนว่าจะต้องได้เจอ
ก๋วยเตี๋ยวหรือบะหมี่ที่เสริฟในชามตราไก่อย่างแน่นอน
จังหวัดลำปาง
วันนี้เราเลยจะขอยกร้านเด่น
ร้านดังต้องห้ามพลาดมานำเสนอ เช่น ร้านบะหมี่หงวนชุน ร้านเก่าแก่ เชิงสะพานรัษฎาที่ยังคงกลิ่นอายในแบบวันวานไว้
เป็นร้านขายบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว กึ่งพิพิธภัณฑ์นิด ๆ
มีกรอบภาพติดเรื่องราวของลำปางในครั้งเก่าก่อนให้ดูชมเยอะแยะพูดถึงเรื่องอาหาร
บะหมี่ที่นี่มีกลิ่นอายของก๋วยเตี๋ยวอยู่ และก๋วยเตี๋ยวก็มีกลิ่นอายของบะหมี่อยู่
จะเรียกว่าเป็นการรวมร่างก็ไม่ผิด ใครนึกภาพไม่ออกแนะนำให้มาลองทาน
นอกจากนี้ยังมีข้าวซอยจีนฮ่อ ความผสมผสานระหว่างอาหารเหนือเข้ากับแบบฉบับของชาวจีน
ที่อร่อย กลมกล่อม หอม หวาน มัน อย่าพลาดเลยทีเดียวเชียว ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่
รวมคุณค่าของความเป็นลำปาง และร้านซะป้ะก๋วยเตี๋ยว ร้านเล็กๆ
ที่ชามใส่ไม่เล็ก เพราะร้านนี้มีจุดเด่น ในการใช้ถ้วยเซรามิคชามยักษ์
ที่ทานได้มากสุดถึง 5 คน มีทั้ง หมู เนื้อ ทะเล มีน้ำซุปให้เลือกมากมายทั้งน้ำตก
ต้มยำน้ำข้น น้ำใส รสชาติกลมกล่อม ที่ได้มาทานแล้วรับรองจะติดใจ
ขนมข้าวปั้น หรือขนมถ้วยจีน ของกินเล่นของชาวจีนในสมัยก่อนที่หาทานได้เฉพาะในจังหวัดลำปาง ขนมนี้จะมีลักษณะรูปร่างคล้ายขนมถ้วยทำมาจากแป้ง มีน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลมะพร้าว หรือน้ำอ้อยราดหน้าตามด้วยหัวไชโป๊เค็มสับและกระเทียมเจียวโรยไว้ การจะหาทาน“ข้าวปั้น” ถ้าใครต้องการทานขนมโบราณหายากในลำปางนี้จะหาทานได้น้อยมากที่เห็นก็จะมีที่ถนนคนเดินสายวัฒนธรรมที่จะมีทุกวันศุกร์ และกาดกองต้าทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ วันธรรมดาจะมีแถวด้านหน้าวัดเกาะวารุการาม แต่ถ้าให้ดีช่วงเย็นวันศุกร์ วันเสาร์และวันอาทิตย์ ได้ทานแน่นอนและมีหลายสีให้เลือกโดยนั่งแคะทานหน้าร้านกันเลย
ขนมข้าวปั้น หรือขนมถ้วยจีน ของกินเล่นของชาวจีนในสมัยก่อนที่หาทานได้เฉพาะในจังหวัดลำปาง ขนมนี้จะมีลักษณะรูปร่างคล้ายขนมถ้วยทำมาจากแป้ง มีน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลมะพร้าว หรือน้ำอ้อยราดหน้าตามด้วยหัวไชโป๊เค็มสับและกระเทียมเจียวโรยไว้ การจะหาทาน“ข้าวปั้น” ถ้าใครต้องการทานขนมโบราณหายากในลำปางนี้จะหาทานได้น้อยมากที่เห็นก็จะมีที่ถนนคนเดินสายวัฒนธรรมที่จะมีทุกวันศุกร์ และกาดกองต้าทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ วันธรรมดาจะมีแถวด้านหน้าวัดเกาะวารุการาม แต่ถ้าให้ดีช่วงเย็นวันศุกร์ วันเสาร์และวันอาทิตย์ ได้ทานแน่นอนและมีหลายสีให้เลือกโดยนั่งแคะทานหน้าร้านกันเลย
อีกหนึ่งเมนูที่เมื่อมาจังหวัดลำปางแล้วต้องหาชิมอย่างแน่นอน
คือเมนู ยำไข่น้ำแร่แจ้ซ้อน
หนึ่งในอาหารถิ่นต้องห้ามพลาดประจำจังหวัดลำปางของ ททท. เมนูนี้คิดค้นขึ้นโดย
ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ จากการนำไข่ไก่ลงไปแช่ในบ่อน้ำร้อนของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
ที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ 82 องศา เพียงเวลาแค่ 17 นาที
จะได้ไข่แดงที่สุกนิ่มพอดีและไข่ขาวที่มีลักษณะเป็นวุ้น
จากนั้นนำมาปรุงรสแบบยำครบเครื่อง ใส่หอมแดง พริกซอย
หาทานได้ในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
หรือในตัวเมืองจะหาทานได้ที่ถนนคนเดินสายวัฒนธรรมทุกวันศุกร์
และถนนคนเดินกาดกองต้าที่จะมีขึ้นทุกวันเสาร์ อาทิตย์
จังหวัดลำพูน
“ไปลำพูนต้องกินลำไย”
ประโยคนี้ได้ยินอยู่บ่อยครั้ง
เพราะที่จังหวัดลำพูนเป็นแหล่งปลูกลำไยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นผลไม้ประจำจังหวัด
ปลูกกันมากแทบทุกหลังคาเรือน ไม่เพียงกินลำไยสดๆ หวานหอม หรือลำไยอบแห้งที่แปรรูปเป็นของกินสารพัด
ทั้งน้ำลำไย วุ้นลำไย คุกกี้ลำไย เค้กลำไย แกงฮังเลลำไย ฯลฯ ที่ลำพูนก็ยังมีของอร่อยอย่าง
“ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย”
เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวขึ้นชื่อที่ใครมาเยือนลำพูนแล้วก็ต้องหาโอกาสมาชิมสักครั้งหนึ่ง
เช่น ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย เวียงยอง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าร้านนี้ต้องขายก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น
แต่ที่พิเศษก็คือน้ำซุปที่ใช้ลำไยอบแห้งมาตุ๋นกับหมูพร้อมด้วยเครื่องตุ๋นยาจีนซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน
ใช้เวลาเคี่ยวนานกว่า 2 ชั่วโมง จนได้น้ำซุปที่หวานหอมจากลำไยอบแห้ง
บวกกับความหอมของเครื่องยาจีน ส่วนเนื้อหมูก็ตุ๋นจนเปื่อยนุ่มได้ที่ เสริฟในชามมาพร้อมกับเนื้อลำไย
ได้ความหวานกินอร่อยคู่กับทั้งเส้นหมี่ เส้นเล็ก บะหมี่ ที่เลือกได้ตามใจชอบ
ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดแล้วข้ามสะพานขัวมุงท่าสิงห์ (บริเวณที่ขายสินค้าโอทอป)
เดินตรงลงมาประมาณ 50 เมตร ก็จะเจอร้านตั้งอยู่ซ้ายมือ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา
09.00-15.00 น.
แกงฮังเลลำไย
หนึ่งในอาหารถิ่นของจังหวัดลำพูน จากแกงฮังเลที่ทานกันทั่วไปในภาคเหนือ
นำมาประยุกต์เสริมวัตถุดิบอย่าง ลำไย เข้าไป
ได้ความหวานจากลำไยเคี่ยวในน้ำแกงช่วยให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น นิยมทำทานกันทุกครัวเรือน
เค้กลำไย
สินค้าโอทอปของจังหวัดลำพูน ที่นำเอาผลผลิตลำไยที่มีอยู่มากมายในชุมชนมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เค้กลำไยเพื่อเพิ่มรายได้
แถมยังเพิ่มความอร่อยและน่าสนใจให้กับลำไยธรรมดาๆ อีกด้วย โดยใช้วัตถุดิบ ไข่ไก่
แป้งสาลี น้ำลำไย และเนื้อลำไยอบแห้งมาผสมกัน แล้วนำเข้าอบ ออกมาได้จะเค้กลำไยสีน้ำตาลทองสวยงาม
เนื้อเค้กนุ่มฟูคล้ายกับชิฟฟอนเค้ก ตกแต่งหน้าเค้กด้วยเนื้อลำไยด้านบน
ส่วนในเนื้อเค้กมีลำไยให้เคี้ยวเล่นเพลินๆ ปากอีกด้วย นอกจากนี้ยังมี ลำไยอบแห้ง
คุ้กกี้ลำไย และ พายลำไย ให้เลือกทานอีกด้วย
แหล่งเช็คอินซื้อของฝากหน้าฝน
ลำปาง-ลำพูน
หากพูดถึงฤดูฝน
นอกจากสายฝนที่ตกลงมาให้เย็นชุ่มฉ่ำ ธรรมชาติที่เขียวขจี มองไปทางไหนก็สบายตาแล้ว
ที่อดคิดถึงไม่ได้นั้นก็คงต้องเป็น
ของกินตามธรรมชาติที่ผุดออกมาเยอะแยะมากมายในช่วงหน้าฝน
วันนี้เราเลยจะพาทุกท่านไปชมแหล่งรวมสินค้าพืชผัก ของกินพื้นถิ่น ของป่าหายาก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแหล่งรวมของป่าที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือเลยก็ว่าได้
กาดบ้านทา
ดอยแก้ว
“ธรรมชาติปลูกไว้ให้เก็บเกี่ยวเยอะแยะ” วลีเข้าหน้าชุ่มฉ่ำช่วงฤดูฝนแบบนี้ เชิญลิ้มลองของอร่อย ที่ตลาดบ้านทาดอยแก้ว อ.แม่ทา จ.ลำพูน ที่ที่มีอาหารป่าจากธรรมชาติส่งมาให้ตามฤดูกาล โดยมีเมนูฮิตมากมายสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน บรรยากาศคึกคักมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชิม มาช็อปกันอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาล หรือวันธรรมดาปกติ
“ธรรมชาติปลูกไว้ให้เก็บเกี่ยวเยอะแยะ” วลีเข้าหน้าชุ่มฉ่ำช่วงฤดูฝนแบบนี้ เชิญลิ้มลองของอร่อย ที่ตลาดบ้านทาดอยแก้ว อ.แม่ทา จ.ลำพูน ที่ที่มีอาหารป่าจากธรรมชาติส่งมาให้ตามฤดูกาล โดยมีเมนูฮิตมากมายสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน บรรยากาศคึกคักมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชิม มาช็อปกันอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาล หรือวันธรรมดาปกติ
ตลาดบ้านทา
หรือ กาดบ้านทาดอยแก้ว
ถือว่าเป็นแหล่งรวม และขึ้นชื่อมากที่สุดในภาคเหนือ อย่างเช่น ผักพื้นเมือง
ผักป่าตามฤดูกาลที่หาซื้อได้ยากจากตลาดทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น หน่อไม้ ผักหวาน
ผักพ่อค้าตีเมีย ผักดอกนางแลว เห็บถอบ(เห็ดเผาะ) ผำ เป็นต้น
และยังมีสัตว์ที่หาทานได้จากในป่า เช่น แมงกุ๊ดจี่ รังผึ้ง หมูป่า ต่อ กบนา แมงดา
รวมไปถึงของทานแปลกๆก็ยังมีอีกด้วย อย่างเช่นไข่ค้างรัง รกวัวน้อยนึ่ง
แต่ก็ไม่ได้มีเพียงแต่ของป่าที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีพืชผักจากบนดอย
หรือพันธุ์ไม้จากที่ชาวบ้านปลูกขึ้นเอง นำมาขายอีกด้วย ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวัน
ตั้งแต่เวลา 09.00
น – 20 .00 น. ใครที่ขับรถผ่านไปกาดบ้านทาดอยแก้ว ก็แวะซื้อไปรับประทานกันได้
เพราะราคาไม่แพง
กาดทุ่งเกวียน
ตลาดขายของพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของจังหวัดลำปาง
ที่ไม่ว่าใครผ่านมาลำปางจะต้องแวะแน่นอน ตลาดตั้งอยู่ห่างจากอำเภอห้างฉัตรประมาณ 10 กิโลเมตร
ตลาดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ฝั่งขวามือ ติดถนนทางไฮเวย์ลำปาง - เชียงใหม่
ที่ที่รวบรวมสารพัดสินค้าของฝากทางภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็น แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม
ไส้อั่ว ข้าวแต๋น แต่ไม่ได้มีเพียงแค่ของฝากเท่านั้น
ตลาดแห่งนี้ยังมีของป่าหายากขายอีกด้วย เช่น พวกเนื้อสัตว์ป่า อย่าง ประเภทแย้ แลน
หมูป่า ไก่ป่า และอื่นๆอีกมากมาย ไม่ได้เพียงแต่ของกินเท่านั้น
ตลาดแห่งนี้ยังรวบรวมสินค้าเซรามิค ของประดับตกแต่งขายอีกด้วย อย่างเช่น
เครื่องเคลือบดินเผาเซรามิค ชามเซรามิคตราไก่ของฝากขึ้นชื่อ
สัญลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดลำปาง ที่นำมาขายกันในราคาถูกแสนถูก เรียกได้ว่ามา ณ
ตลาดแห่งนี้ที่เดียวจบ ได้ทั้งของทานเล่น ของกินหายาก ของฝาก ครบครันให้เลือกซื้อ
ตลาดทุ่งเกวียนเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00 น. หากใครผ่านมาทางนี้เชิญแวะชิม ช็อป แถมของฝากติดไม้ติดมือกลับไปด้วย
สำหรับใครมาในช่วงเทศกาลจะต้องทำใจจอดรถไกลกันซักหน่อย เพราะที่ตลาดแห่งนี้คึกคักและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากๆ
ใครผ่านแล้วไม่แวะถือว่าพลาด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น